วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความเสียหายบนผิวคอนกรีต(ต่อ)

ความเสียหายที่ปรากฏบนผิวหน้าคอนกรีตอาจเกิดขึ้นได้เสมอ ความเสียหายเหล่านี้อาจเป็นผลมาจากการทำงานที่ขาดความระมัดระวัง การใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม การใช้ส่วนผสมที่ไม่ถูกต้อง หรือการเทและบ่มคอนกรีตที่ไม่ถูกวิธี จริงอยู่ สิ่งเหล่านี้ถึงแม้จะซ่อมแซมได้ก็ตาม แต่ก็ทำให้เกิดความยุ่งยากและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและถึงแม้ว่าจะซ่อมแซมดีเพียงใดก็ตาม ย่อมไม่อาจทำให้มีคุณภาพดีเท่ากับคอนกรีตที่ไม่ต้องซ่อมได้ สิ่งเหล่านี้สามารถควบคุมมิให้เกิดขึ้นได้ ถ้าเพิ่มความเอาใชใส่ทั้งก่อนและขณะปฏิบัติงาน สำหรับลักษณะความเสียหายที่พบเห็นกันโดยทั่วไป ได้แก่ ผิวหน้าแตกเป็นฝุ่น ผิวหน้าร่อนเป็นแผ่น ผิวหน้าเป็นโพรงแบบรังผึ้ง ผิวหน้าพองปูด มีชั้นส่วนละเอียดบนผิวหน้าคอนกรีตโพรงอากาศ แนวหรือรอยทราย และรอยปะทุ
          ผิวหน้าแตกเป็นฝุ่น (dusting)
ผิวหน้าของคอนกรีตโดยเฉพาะบนพื้นคอนกรีต มีคอนกรีตซึ่งมีความแข็งน้อยกว่าเนื้อในเคลือบอยู่บางๆ ทำให้ความต้านทานต่อการขัดสีดำ ดังนั้น เมื่อถูกขัดสีก็จะกลายเป็นฝุ่นไปในที่สุด สำหรับสาเหตุและวิธีแก้ไขได้ถูกแสดงไว้ดังนี้


ข้อสังเกต: แบบไม้หรือไม้อัดที่ใช้ครั้งแรก ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าของคอนกรีตแตกเป็นฝุ่นได้เช่นกัน จากการทดสอบพบว่าเฮมิเซลลูโลส (Hemicellulose) ในเนื้อไม้มีผลต่อการก่อตัวของปูนซีเมนต์ ดังนั้น เมื่อใช้ไม้เป็นแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม้ยังแห้งไม่สนิทก็ควรใช้น้ำมันทาเคลือบผิวหน้า แต่อย่างไรก็ตาม สมาคมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า การใช้น้ำมันทางแบบมากเกินไปก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าของคอนกรีตแตกเป็นฝุ่นได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำมันจะจับฝุ่นสะสมเป็นชั้นบางๆ บนผิวหน้าของแบบ ทำให้คอนกรีตที่ติดกับแบบไม่ก่อตัวตามปกติ และเมื่อถึงกำหนดเวลาถอดแบบแล้ว คอนกรีตที่ติดกันกับแบบก็ยังไม่แข็งตัว จึงกลายเป็นฝุ่นไปในที่สุด สำหรับการแก้ไขก็สามารถกระทำโดยไม่ใช้น้ำมันทาแบบมากจนเกินไป หรือเช็ดล้างน้ำมันส่วนเกินออก การใช้ไม้อัดเป็นครั้งแรก นอกจากจะทำให้ผิวหน้าของคอนกรีตแตกเป็นฝุ่นแล้ว บางครั้งก็จะทำให้ผิวหน้าของคอนกรีตเป็นสีชมพูหรือสีแดง ซึ่งเข้าใจอาจเกิดจากสารบางชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตไม้อัดสิ่งเหล่านี้ล้างออกยากแต่จะจางหายไปเองภายใน 2-3 วัน หรือบางครั้งหลายสัปดาห์ก็เป็นได้

จะไม่เกิดปัญหาเหล่านี้หากเราเลือกวัสดุที่มีคุณภาพในการสร้างบ้าน ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งขอแนะนำอิฐมวลเบา BlokCo (อิฐมวลเบา บล็อคโค่) ที่มีตุณสมบัติพิเศษสามารถป้องกันความร้อนได้ดีบ้านเย็น เป็นเป็นวัสดุที่มีวัตถุดิบคล้ายกันกับปูนซีเมนต์ จำให้เกิดปัญหาน้อยมากในการก่อฉาบ และสามารถลดการแตกร้าวของผนังบ้าน โดยมีโรงานผลิตที่ จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอุบลราชธานี

ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือเทคนิคงานปูน คอนกรีต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น