ผสมปูนฉาบคอนกรีตมวลเบา
ในสัดส่วนปูนฉาบมวลเบา 1 ถุง ต่อ น้ำสะอาดประมาณ 10-12
ลิตรผสมให้เข้ากันด้วยโม่ผสมปูนหรือผสมมือด้วยกระบะผสมปูน ให้เข้ากันเป็นอย่างดี
ควรผสมแค่พอใช้เท่านั้น และควรใช้ให้หมดภายใน 2 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง: หลังจากผสมแล้ว ไม่ควรนำปูน
ที่ทิ้งไว้จนแห้งตัว มาผสมน้ำเพิ่ม แล้วใช้งานต่อเพราะจะทำให้การรับกำลังของปูนลดน้อยลง
เป็นผลทำให้ผนังของอาคารไม่แข็งแรงเกิดการแตกร้าวตามมาภายหลัง
การเตรียมผิว
ใช้แปรงตีน้ำหรือไม้กวาดปาดและทำความสะอาดเศษผงที่ติดอยู่บนผนังคอนกรีตมวลเบาให้หมด
และหากมีรอยแตกบิ่นให้อุดด้วยขี้เลื่อยคอนกรีตมวลเบาผสมกับปูนก่อมวลเบาเสียก่อน
แล้วทั้งไว้ให้แห้งก่อนที่จะทำการฉาบ จากนั้นให้ราดน้ำที่ผนังให้ชุ่มประมาณ 2
ครั้ง แล้วทิ้งให้ผนังดูดซับน้ำ จึงเริ่มขั้นตอนการฉาบผนังคอนกรีตมวลเบา
การฉาบ
การฉาบผนังคอนกรีตมวลเบา พีซีซี
จะใช้ปูนฉาบคอนกรีตมวลเบา ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษคือ มีแรงยึดเกาะสูง เนื้อละเอียด
เหนียวลื่น มีความอุ้มน้ำสูง ทำให้ไม่แตกร้าว โดยการฉาบ จะฉาบด้วยความหนาเฉลี่ยเพียง
1.0 ซม. เท่านั้น คือที่ความหนา 0.5 – 1.5 ซม. โดยปูนหนึ่งถุงน้ำหนัก
50 กก. นั้น ใช้น้ำสะอาด 10-12 ลิตรผสม ได้พื้นที่ ฉาบประมาณ 2.8 - 3 ตร.ม. โดยมีขั้นตอนการฉาบดังนี้
1.ควรฉาบให้มีความหนาเฉลี่ย 1.0 ซม.
คือที่ความหนา 0.5 – 1.5 ซม. โดยทำการฉาบ 2 ชั้น ชั้นละประมาณครึ่งหนึ่งของความหนาทั้งหมด
2.
เมื่อฉาบชั้นแรกแล้วให้ทิ้งไว้ให้หมาด แล้วฉาบชั้นที่สองต่อ
จนได้ความหนาที่ต้องการ หลังจากนั้นแต่งผิวให้เรียบตามวิธีปกติ
ข้อควรระวังในการฉาบ :
1. การฉาบปูนบนผนังคอนกรีตมวลเบา
โดยฉาบเป็นชั้นเดียวแล้วตีน้ำเลยนั้น ทำได้เฉพาะกรณีที่ฉาบหนาไม่เกิน 1.5 ซม.
ถ้าเกินกว่านี้ อาจส่งผลให้เกิดการแตกร้าวที่ผิว เนื่องจากการหดตัวของปูนฉาบ
2. การฉาบหนากว่า 2 ซม.
ต้องแบ่งฉาบชั้นละประมาณ 1-2 ซม.
และติดลวดตาข่ายระหว่างชั้นเพื่อป้องกันการแตกร้าวในกรณีหนากว่า 4 ซม.
3. ก่อนฉาบให้ติดลวดหรือพลาสติกตาข่าย
ตามบริเวณมุมวงกบประตู, หน้าต่าง, รอยต่อเสา
รวมถึงบริเวณที่มีการขุดเซาะร่องเพื่อฝังท่อสายไฟหรือท่อน้ำ
เพื่อลดปัญหาการแตกร้าวจากการฉาบ
4. หลังจากทำการฉาบผนังคอนกรีตมวลเบาเรียบร้อยแล้ว
หากต้องการตอกตะปูเพื่อใช้ในการยึดแขวนวัสดุหรือของใช้ต่างๆ ให้ฝังในพุ๊กไนล่อนหรือพุ๊กเหล็ก
ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดตะปูให้แน่นได้เป็น อย่างดี
การฉาบผนังที่ได้ผลดีไม่มีรอยแตกร้าว
ก็จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาก่อ คือ อิฐที่ให้ก่อผนังบ้าน ซึ่งในปัจจุบัน
บริษัทเอ็นวัน จำกัด ได้พัฒนาอิฐมวลเบา BlokCo ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ
ทำให้อิฐมวลเบา BlokCo มีความแข็งแรง ทนทาน มีขนาดที่ได้มาตรฐาน
มิติเที่ยงตรง ทำให้ง่ายต่อการก่อผนัง และจะทำให้งานฉาบผนังปูนทำได้ง่ายมากขึ้นด้วย
ปัจจุบัน อิฐมวลเบา BlokCo มีโรงงานผลิตั้ได้มาตราฐานมีกำลังผลิตเพียงพอต่อการสั่งซื้อของลูกค้าในแต่ละรอบการสั่ง
ซึ่งมีโรงงานผลิตและเป็นสถานที่จัดจำหน่าย ที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น